ครั้น ณ วันพุธ ขึ้นแปดค่ำ เดือนยี่ ปีจออัฐศก (ตรงกับวันที่ ๗ มกราคม ๒๓๐๙(๑)) ยกพลทหารเดินทางต่อมาประทับที่ตำบลหนองไม้ทรุง(๒) ตามทางเมืองนครนายก ประทับรอนแรมไปอีก ๒ วัน จนถึงบ้านนาเริ่ง และออกจากบ้านนาเริ่งเดินทางต่ออีกหนึ่งวันจึงถึงเมืองปราจีนบุรี ข้ามด่านกบแจะ(๓) และได้หยุดพักพลหุงหาอาหารฟากตะวันออก แล้วพระองค์จึงให้ยกพลข้ามทุ่งไป

​

(๑)เหตุผลที่เป็น พ.ศ. ๒๓๐๙ แทนที่จะนับเป็น พ.ศ. 2310 เพราะ เดิมแล้วคนไทยเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติ

พราหมณ์ ซึ่งมักจะตรงกับช่วงเดือน เมษายน ก่อนที่จะมาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ โดยกำหนดให้วันที่ ๑ มกราคม ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๔เป็นวัน

ขึ้นปีใหม่ เป็นต้นมา

(๒) พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพระราชหัตถเลขา ว่า ครั้น ณ วันพฤหัสบดี ขึ้นเก้าค่ำเดือนยี่ จึงยกพลทหารมาหยุดประทับ      

ตำบลหนองไม้ซุ้ม

พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับบริติชมิวเซียมกรุงลอนดอนและฉบับหมอบรัดเลย์ ว่า ยกพลทหารมาหยุดประทับตำบลหนองไม้ทรุม

(๓) พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพระราชหัตถเลขา ว่า ก็ถึงบ้านนาเริ่งแขวงเมืองนครนายก หยุดประทับอยู่คืนหนึ่งแล้วยกไปที่นั่น

อีกวันหนึ่ง จึงข้ามแม่น้ำไปฝากตะวันออก ถึงบ้านกบแจะด่านเมืองปราจีนบุรี

Previous